สินค้าโภคภัณฑ์ 303: บทที่ 4 จาก 5

ยินดีต้อนรับสู่บทที่ 4 ของสินค้าโภคภัณฑ์ 303 ซึ่งเราจะเจาะลึกเข้าสู่โลกแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายน้ำมัน ตัวชี้วัดทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลโดยพิจารณาจากรูปแบบราคาและข้อมูลในอดีต ในบทเรียนนี้ เราจะแนะนำตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่สำคัญสามตัวที่ใช้กันทั่วไปในการซื้อขายน้ำมัน และสำรวจว่าตัวบ่งชี้เหล่านี้จะช่วยคุณวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างไร

ตัวชี้วัดทางเทคนิคมีความสำคัญเมื่อซื้อขายน้ำมัน

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
  • ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ลู่เข้าความแตกต่าง (MACD)

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้ข้อมูลราคามีความราบรื่น ทำให้ระบุแนวโน้มและการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองประเภทหลักมีความสำคัญสำหรับผู้ค้าน้ำมัน:

  • Simple Moving Average (SMA): SMA คำนวณราคาปิดเฉลี่ยของน้ำมันในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปคือ 20, 50 หรือ 200 วัน ผู้ค้าใช้ SMA เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้มและระดับแนวรับหรือแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
  • Exponential Moving Average (EMA): EMA ให้น้ำหนักกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่า ทำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาได้เร็วกว่า SMA ผู้ค้าน้ำมันใช้ EMA เพื่อการวิเคราะห์แนวโน้มที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นและระบุการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะสั้น

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)

Relative Strength Index (RSI) เป็นออสซิลเลเตอร์โมเมนตัมที่ใช้วัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา ช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินสภาวะการซื้อมากเกินไปหรือการขายมากเกินไปในตลาด ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ RSI ได้แก่:

  • ระดับการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไป: ค่า RSI ที่สูงกว่า 70 บ่งชี้ถึงสภาวะการซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งบอกว่าราคาอาจถึงกำหนดการปรับฐาน ในทางกลับกัน ค่า RSI ที่ต่ำกว่า 30 บ่งชี้ว่ามีการขายมากเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อ
  • ความแตกต่าง: ความแตกต่างของ RSI เกิดขึ้นเมื่อทิศทางของตัวบ่งชี้แตกต่างจากการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งส่งสัญญาณถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ลู่เข้าความแตกต่าง (MACD)

Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมตามแนวโน้มที่ประกอบด้วยเส้นสองเส้น – เส้น MACD และเส้นสัญญาณ เทรดเดอร์ใช้ MACD เพื่อ:

  • การระบุแนวโน้ม: ความสัมพันธ์ของเส้น MACD กับเส้นสัญญาณช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ครอสโอเวอร์แบบกระทิง (MACD ข้ามเหนือเส้นสัญญาณ) อาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ครอสโอเวอร์แบบหมี (MACD ข้ามใต้เส้นสัญญาณ) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้น
  • ฮิสโตแกรม: ฮิสโตแกรม MACD จะแสดงภาพความแตกต่างระหว่างเส้น MACD และเส้นสัญญาณ ฮิสโตแกรมที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกถึงโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ฮิสโตแกรมที่ลดลงบ่งบอกถึงโมเมนตัมที่ลดลง

การใช้ความรู้ของคุณ:

บทที่ 4 ได้แนะนำให้คุณรู้จักกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่สำคัญสามตัว ได้แก่ Moving Averages, Relative Strength Index (RSI) และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขายน้ำมัน ด้วยการใช้ตัวบ่งชี้เหล่านี้อย่างเชี่ยวชาญ เทรดเดอร์จะสามารถเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา ระบุแนวโน้ม และตัดสินใจซื้อขายโดยมีข้อมูลครบถ้วน

เมื่อคุณเดินทางต่อผ่าน Commodities 303 คุณจะสำรวจกลยุทธ์การซื้อขายขั้นสูง และรับข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดน้ำมัน


อะไรต่อไป?

ขอแสดงความยินดีที่สำเร็จ บทที่ 4 จาก 5! แต่อย่าหยุดเพียงแค่นี้ ยังมีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้

ปฏิทินเศรษฐกิจ

ไม่พบข้อมูล

การซื้อขายมากที่สุด

โอกาสในการซื้อขาย

สกุลเงินปลอดภัยได้รับผลกำไรท่ามกลางภูมิทัศน์การค้าที่ไม่แน่นอน | FX Research

การโจมตีของทรัมป์ต่อพาวเวลล์ผลักดันให้ทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่

การโจมตีของทรัมป์ต่อพาวเวลล์ผลักดันให้ทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่

การโจมตีของทรัมป์ต่อพาวเวลล์ผลักดันให้ทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่

ข้อเสนอจำกัด:

รับฟรี

แป้นพิมพ์ TraderKeys ช่วยยกระดับการซื้อขายทองของคุณขึ้นไปอีกระดับ โดยมีปุ่มลัดที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อให้คุณดำเนินการและปรับเปลี่ยนการซื้อขายได้อย่างง่ายดาย

Join Now